เทคนิคการเข้าซื้อหุ้น
แน่นอนครับ เทคนิคการเข้าซื้อหุ้นมีหลากหลายวิธี แต่ถ้าให้สรุปแบบเข้าใจง่ายในหนึ่งหน้ากระดาษ อาจแบ่งได้เป็นกลุ่มหลักๆ ดังนี้ครับ
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis):
เน้นการดู "คุณค่า" ที่แท้จริงของบริษัท เพื่อหาหุ้นที่ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น
เน้นการเติบโต (Growth Investing): มองหาบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโตของรายได้และกำไรสูงในอนาคต มักเป็นบริษัทในอุตสาหกรรมใหม่ หรือมีนวัตกรรมเด่น
เน้นคุณค่า (Value Investing): มองหาบริษัทที่มีพื้นฐานดี มีกำไรสม่ำเสมอ แต่ราคาหุ้นยังต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น อาจเป็นเพราะบริษัทอยู่ในช่วงที่ตลาดไม่นิยม หรือมีปัจจัยภายนอกมากระทบชั่วคราว
เน้นเงินปันผล (Dividend Investing): มองหาบริษัทที่จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอและมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) ที่น่าสนใจ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระแสเงินสด
วิเคราะห์จากงบการเงิน: ดูตัวเลขในงบดุล งบกำไรขาดทุน และงบกระแสเงินสด เพื่อประเมินสุขภาพทางการเงิน ความสามารถในการทำกำไร และประสิทธิภาพในการดำเนินงานของบริษัท
วิเคราะห์เชิงคุณภาพ: พิจารณาปัจจัยที่ไม่เป็นตัวเลข เช่น ผู้บริหาร วิสัยทัศน์ของบริษัท ความสามารถในการแข่งขัน สภาพอุตสาหกรรม และโอกาสทางธุรกิจ
การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis):
เน้นการดู "ราคา" และ "ปริมาณการซื้อขาย" ในอดีต เพื่อคาดการณ์แนวโน้มราคาในอนาคต
ดูแนวโน้ม (Trend Following): ซื้อเมื่อราคาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น และขายเมื่อราคาอยู่ในแนวโน้มขาลง
ดูรูปแบบราคา (Chart Patterns): สังเกตรูปแบบการเคลื่อนไหวของราคาบนกราฟ เพื่อหาจังหวะซื้อขาย เช่น รูปแบบสามเหลี่ยม ไหล่ศีรษะ
ใช้เครื่องมือทางเทคนิค (Technical Indicators): ใช้สูตรคำนวณทางสถิติจากราคาและปริมาณการซื้อขาย เพื่อช่วยในการตัดสินใจ เช่น Moving Average, RSI, MACD
จับจังหวะซื้อเมื่อราคาปรับตัวลง (Buy on Dip): รอให้ราคาหุ้นที่สนใจปรับตัวลงมาในระดับแนวรับที่คาดการณ์ไว้ แล้วจึงเข้าซื้อ
ซื้อเมื่อราคา Breakout: เข้าซื้อเมื่อราคาหุ้นสามารถทะลุแนวต้านสำคัญขึ้นไปได้ โดยเชื่อว่าราคาจะปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง
3. กลยุทธ์อื่นๆ:
การลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน (Dollar-Cost Averaging): ลงทุนด้วยจำนวนเงินเท่ากันเป็นงวดๆ โดยไม่สนใจราคา เพื่อลดความเสี่ยงจากการจับจังหวะตลาดผิดพลาด
การลงทุนตามกระแส (Momentum Investing): ซื้อหุ้นที่กำลังมีราคาปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง โดยเชื่อว่าแนวโน้มนั้นจะดำเนินต่อไป
การลงทุนแบบผสมผสาน: ใช้ทั้งการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานและทางเทคนิคประกอบกัน เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจ
ข้อควรจำ: ไม่มีเทคนิคใดที่รับประกันผลตอบแทนได้เสมอไป นักลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจในแต่ละเทคนิค เลือกใช้ให้เหมาะสมกับสไตล์การลงทุน เป้าหมาย และระดับความเสี่ยงที่รับได้ ที่สำคัญคือการมีวินัยในการลงทุนและติดตามข่าวสารอย่างสม่ำเสมอครับ
ถ้าต้องการศึกษาเพิ่มเติมสามารถอ่านหนังสือ หรือลงเรียนคอร์สออนไลน์ของผมได้ตามข้อมูลดังนี้เรียนรู้เพิ่มเติมด้วยคอร์สออนไลน์และหนังสือตามลิงค์นี้
หนังสือเล่มกระดาษ เทรดอย่างไรกำไรไว ไม่ติดดอย High speed profit trading ท่านละ 1 เล่มราคาพิเศษ 825 บาท จากปกติ 1650 บาท สั่งเลยที่นี้ https://www.akdsolution.com/product/41903-50276/high-speed-profit-trading-new-promotion
ทดลองอ่านบนแพลตฟอร์ม MEB
High speed profit trading
https://shorturl.asia/v2O6y
ทดลองอ่านบนแพลตฟอร์ม MEB
The Art of Fibonacci Trading
https://shorturl.asia/j0xQ6
ผลงานคอร์สออนไลน์บนแพลตฟอร์ม SKILLLANE
1️ #คอร์สออนไลน์ High Speed Profit Trading เทรดหุ้นอย่างไร กําไรไว ไม่ติดดอย พอร์ตโตยั่งยืน
เรียนเลยที่ https://www.skilllane.com/courses/4909
2️ #คอร์สออนไลน์ Investor 4.0 ลงทุนอย่างไรมั่งคั่งยั่งยืน
เรียนเลยที่ https://www.skilllane.com/courses/888
3️ #คอร์สออนไลน์ The Art of Fibonacci Trading ซื้อขายหุ้น ถูกเวลา ราคาเหมาะสม
เรียนเลยที่ https://www.skilllane.com/courses/878
เรียนแบบส่วนตัวกลุ่มย่อย พร้อมปรึกษาสำหรับคนเทรดจริงจัง
1. Workshop: เทรดแบบชยุต จับมือปั้นพอร์ตโต 100 ล้านบาท ใน 3 ปี
- ราคา 4,990 บาท
- สมัครเรียนได้ที่: https://www.skilllane.com/bundles/521
2. Workshop (Premium): เทรดแบบชยุต จับมือปั้นพอร์ตโต 100 ล้านบาท ใน 3 ปี
- ราคา 7,990 บาท
- สมัครเรียนได้ที่: https://www.skilllane.com/bundles/522